Jan 26, 2023
คณบดีคณะแพทย์ มอ.ยืนยัน "น้องวีน" จนจริง มีหลักฐานยืนยัน ไม่ปิดกั้นโอกาสเข้าเรียนต่อ
วันที่ 25 ม.ค. 66 รศ.นพ.เรืองศักดิ์ ลีธนาภรณ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ชี้แจงกรณีนายกันตภณ เต่าจันทร์ หรือน้องวีน อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6 จังหวัดพัทลุง ที่ผ่านการทดสอบรอบพิเศษ เข้าศึกษาต่อที่คณะแพทย์ศาสตร์ แล้วก็ได้ออกมาเปิดบัญชีรับบริจาค หาเงินเรียนหมอ ก่อนถูกโซเชียลเปิดโปงว่า “จนทิพย์”
โดย รศ.นพ.เรืองศักดิ์ ระบุว่า ต้องแยกเป็นใจความสำคัญไป โดยหัวข้อการสอบเด็กสอบได้จริง มาจากวิชาความรู้ความสามารถ และผ่านการทดสอบมาตามขั้นตอน ไม่ได้ลัดขั้นตอนอะไรก็ตามทั้งสิ้น ถือได้ว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถที่จะเข้ามาเป็นนักศึกษาแพทย์ได้

ส่วนประเด็นเรื่องจนจริง จนทิพย์ หรือไม่นั้น ต้องพูดว่า “จนจริง”
ไม่ได้แค่อ่าน หรือฟังคำพูดของคนใดมา แต่ว่าทางคณะแพทยศาสตร์ ได้ส่งทีมอาจารย์ลงพื้นที่ไปพบกับเด็ก แล้วก็ครอบครัว แล้วก็ถามไถ่จากญาติ คนใกล้ชิด และคนที่มีความเกี่ยวข้องในพื้นที่ ซึ่งมีข้อมูลหลักฐานการันตีได้ว่า ครอบคัวของน้องวีน ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ รวมทั้งถ้าต้องมาเรียนหมอ ก็น่าจะไม่มีกำลังทรัพย์ที่เพียงพอ
ส่วนประเด็นการเปิดรับบริจาคนั้น ไม่น่าจะเป็นประเด็น ที่จะไม่รับเข้าศึกษาต่อแต่อย่างใด ซึ่งน้องวีนแล้วก็ครอบครัว เมื่อทราบว่าสอบได้ก็ดีใจมาก แล้วก็เชื่อว่าเมื่อรู้ว่าจะต้องเรียนหมอ จึงมีความรู้สึกหนักใจเรื่องค่าใช้จ่าย โดยพยายามขวนขวาย หาหนทาง ซึ่งสิ่งที่ทำก็มิได้ เป็นการโกหกหลอกลวง และสิ่งที่น้องวีน และก็ครอบครัวพูดก็เป็นความจริง
ในช่วงเวลาที่ในเรื่องเงินทุนการศึกษานั้น ทางคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มีบุคลากร และหน่วยงานด้านนอก ที่คอยสนับสนุนทุการศึกษา ให้กับนักเรียนแพทย์ตั้งแต่ปี 1-ปี 6 อีกทั้งยังมีทุนการศึกษา จากมูลนิธิโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อีกส่วนหนึ่งมอบ ที่จะมอบให้กับนักศึกษาที่เรียนดี ประพฤติดี แต่ขาดเงินทุนด้วย ซึ่งกรณีของน้องวีน หรือนักศึกษาคนอื่นๆ ที่มีปัญหาเรื่องค่าเล่าเรียนนั้น ทางคณะแพทยศาสตร์ มีขบวนการที่จะเข้าไปช่วยเหลือ นักศึกษาเหล่านี้อยู่แล้ว
จากข้อมูลล่าสุด ที่ได้ส่งทีมอาจารย์เข้าพบน้องวีน รวมทั้งครอบครัว ที่ที่พักนั้น คาดว่า น้องวีน คงจะมาเข้าศึกษาต่อที่คณะแพทย์ ซึ่งน้องมีความมุ่งมั่นตั้งใจ ที่จะเรียนมาตั้งแต่ต้น และก็คาดว่า น้องวีน คงจะไม่ล้มเลิกความมุ่งมั่นนี้
สำหรับยืนยันสิทธิ์เข้าศึกษาต่อที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จะมีขึ้นในวันที่ 7-8 ก.พ. แล้วก็จะมีการพิจารณาพร้อมด้วยประกาศผล คนที่ได้รับการคัดเลือด เข้าศึกษาต่อในวันที่ 11 ก.พ.นี้
ลือลั่น มอ. ตัดสิทธิ์ “น้องวีน จนทิพย์” ไม่ให้เรียนหมอ ล่าสุดทางมหาวิทยาลัยตอบแล้ว
หลังจากที่ที่ผ่านมา เพจ “อีซ้อขยี้ข่าว2” ได้ออกมาโพสต์เนื้อความ อัปเดตความคืบหน้ากรณีครอบครัวของ “น้องวีน จนทิพย์” นักเรียนชายที่สอบติดคณะแพทยศาสตร์ ที่ออกมาเปิดบัญชี รับบริจาคหาเงินเรียนแพทย์ ก่อนถูกโซเชียลแฉว่า มิได้จนจริง ทั้งแม่ที่ใช้ของแบรนด์เนมเสมอๆ และก็ลูกที่ใช้ของแพง ๆ อีกทั้งสมาร์ทโฟน และนาฬิการาคาแพง โดยทางเพจอัปเดตว่า ทางครอบครัวเพิ่งจะปิดบัญชี รับบริจาคตอนวันที่ 18 ที่ผ่านมานี้ รวมทั้งยังบอกอีกว่า ฝากสื่อ-นักข่าวตามด้วย ม.สงขลาฯ เหมือนจะไม่รับ น้อง..จนทิพย์เข้าเรียนในคณะแพทย์แล้ว
ปัจจุบัน คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้เผยออกมาว่า เด็กนักเรียนชายคนดังกล่าว ผ่านการตรวจสอบรอบพิเศษของนักเรียนภายใน จังหวัดพัทลุง รวมทั้งเป็นโครงการพิเศษ ห้วยยอดโมเดลที่เริ่มมาแล้วระยะหนึ่ง ซึ่งเป็นโครงการปฏิรูปการศึกษา ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่จะสร้างหมอจากคนภายในพื้นที่ ที่รู้ปัญหาสุขภาพของคนบ้านเดียวกัน แต่ว่าในขณะนี้ ยังไม่มีการตัดสิทธิ์อะไรก็แล้วแต่ เพราะอยู่ในขั้นตอนที่ เด็กจะต้องทำรับรองสิทธิ เข้าศึกษาต่อที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในวันที่ 7-8 ก.พ. และจะมีการพิจารณาพร้อมทั้ง ประกาศผลคนที่ได้รับการคัดเลือด เข้าศึกษาต่อในวันที่ 11 ก.พ.นี้
ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ทางคณะฯ ได้นัดคุยเด็กแล้ว แต่ว่าไม่สามารถที่จะเผยรายละเอียดได้ อย่างไรก็ตาม คณะแพทยศาสตร์ ไม่อาจจะปฏิเสธสิทธิการรับเข้าศึกษาของเด็กได้
ก่อนหน้านี้ สาวช่วยครอบครัวเด็ก 18 ติดแพทย์ เปิดเผยจนทิพย์อ้างแม่ใส่ทอง เที่ยวผับ
สาวโพสต์เฟซบุ๊ก ระบายความในใจ บอกเสียความรู้สึก หลังจากแม่เด็ก 18 สอบติดแพทย์ ไม่ยอมแจงเงินบริจาค บอกได้เงินแล้ว จบ! คาดตุ๋นทุกคนจนเปื่อย จากกรณีเด็กนักเรียนผู้ชายวัย 18 ปี ซึ่งก่อนหน้าที่ผ่านมา ทางครอบครัวแจ้งว่า น้องสอบคัดเลือกเป็นนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา แต่ว่ามีปัญหาเรื่องทุนการศึกษา กับเปิดรับบริจาค ก่อนที่จะออกมาประกาศขอบคุณ ผู้ใจบุญ พร้อมด้วยปิดรับบริจาคเงินไป โดยมีตัวแทนจากมูลนิธิแห่งหนึ่ง แจ้งความประสงค์ดูแลเรื่องทุนเล่าเรียนของน้องจนเรียนจบ
แต่แล้วชาวเน็ต ได้มีการแชร์ภาพจาก เฟซบุ๊กเพจหนึ่ง อ้างถึงว่าเป็นภาพของน้องในขณะที่ ถือโทรศัพท์ไอโฟน 12 Pro Max ใส่นาฬิกา Apple Watch พร้อมกับตั้งคำถามว่า ใช้สิ่งมีราคาขนาดนี้ จะมาขอรับบริจาคทำไม หรือทำไมไม่ไปกู้ กยศ.
จนกระทั่งถัดมา มีตัวแทนจากครอบครัวของน้อง ออกมาอธิบาย ถึงยอดเงินบริจาคว่า เท่าที่ทราบ เงินผ่านบัญชีมีราวๆ 8 แสนบาทเศษ ส่วนของราคาแพง ที่น้องใช้นั้น แม่ก็ยังผ่อนอยู่ เนื่องจากต้องการที่จะให้น้องมีอุปกรณ์ที่นำสมัย เพื่อใช้ในการเรียน หาความรู้ด้วยตัวเอง ดังที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
More Details